4 วิธีการเลือกเครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ที่ต้องรู้ 🧐🧐
สวัสดีครับวันนี้ผมจะมากล่าวถึงวิธีการเลือกเครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve กันนะครับเอาหลักๆผมจะกล่าวถึง 4 เรื่องหลักๆด้วยกันครับ
1.) เลือกกำลังการผลิตที่เหมาะสม
2.) เลือกความทนทานและคุณภาพ Compressor ครับ
3.) คุณภาพของเนื้อไอศครีมที่อยากได้
4.) ฟังก์ชั่นของเครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ที่อยากจะได้
- - - - - - - - - - - - - - -
ซึ่งทั้งหมดนี้จะยิ่งดีขึ้นยิ่งมากขึ้นก็จะมีผลต่อราคานะครับ ^^
ตามทุนที่ลูกค้ามีแต่เอาให้คุ้มค่าที่สุดนะครับ มาเริ่มกันเลยนะครับ
1.) เลือกกำลังการผลิตที่เหมาะสม
ผมขอกล่าวเรื่องกำลังการผลิตของเครื่องทำไอศครีมซอฟต์เสริฟก่อนเลยนะครับต้องเข้าใจก่อนนะครับว่าเครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve นั้นคือเครื่องปั่นไอศครีมสดตลอดระยะเวลาที่ขาย ขายไปปั่นไปครับ ไม่เหมือนกับเครื่องทำไอศครีมชนิดอื่นๆที่ปั่นแล้วนำมาแช่แข็งแล้วถึงขาย
ดังนั้นกำลังการผลิตที่เพียงพอในการขายไอศกรีมซอฟต์เสริฟจึงเป็นสิ่งสำคัญครับ
วิธีดูกำลังการผลิตของเครื่องทำไอศครีมซอฟต์เสริฟ soft serve
เริ่มจากการดูกำลังการผลิตก่อนครับ ตัวเลขกำลังการผลิตนั่นจะมีค่าที่ชัดเจนครับซึ่งจะเป็นข้อมูลเฉพาะของเครื่องทำไอศกรีมครับ โดยจะบอกอยู่ใน Name page ของเครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ soft serve (เวลาที่จะซื้อเครื่องจะต้องมีติดนะครับไม่เช่นนั้นต้องลองกดดูจริงๆครับ) เขียนว่า Capacity มีหน่วยเป็นส่วนใหญ่ว่า L/H มีทั้งบอกเป็นช่วง และบอกเป็นเลขเดี่ยวๆครับ เช่น 18-25 L/H
คือกำลังการผลิต 18L/H นะครับ (ปกติผู้ขายเครื่องทำไอศครีมซอฟต์เสริฟชอบเอาตัวเลขมากสุดของเครื่องมานำเสนอขายเพื่อจูงใจในการขาย และคุ้มค่ากับราคาครับ)
แล้วกำลังการผลิตเท่าไรถึงจะเหมาะสมกับเราละ เนื่ยละครับสำคัญ
ผมอยากแนะนำใช้หลักดังนี้ครับคือ ดูความถี่ของลูกค้าที่เข้าร้านเราเป็นหลักครับ
ว่าลูกค้าเข้ามาสั่งไอศกรีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ต่อรอบ กี่โคน และช่วงเวลาติดๆกันไหม ผมจะพูดให้เห็นภาพนะครับ เช่น
- การขายในโรงเรียนเด็กซัก 3,000 คน ขายไอศครีมช่วงเที่ยงเด็กกินข้าวสัก 15-30 นาที แสดงว่ามีเวลาขาย 30 นาที ถ้าอยากได้สัก 150-200 คน กดไอศครีมปริมาณหลัก 70 กรัม/โคน ก็ต้องเป็นเครื่องไอศครีมกำลังการผลิต 25 L/H กำลังตึงๆ ถ้าจะให้ดีต้องกำลังการผลิต 36 L/H จะกำลังดีเลยครับ
- ถ้าอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยว ห้างหรือตลาดที่มีคนเดินเยอะๆ มาเป็นช่วงเวลา มาเป็นครอบครัว เป็นการขายเรื่อยๆ
แต่ต่อรอบลูกค้าที่เข้าอาจจะต้องกดไอศครีม 2-3 โคนในปริมาณต่อโคนสัก 100 กรัม ผมอยากแนะนำเป็นเครื่องไอศกรีมซอฟต์เสริฟ Soft serve 25 L/H ขึ้นไปครับ
- ถ้านำไปเสิร์ฟในร้านกาแฟ และคิดว่าคนไม่เยอะมาเรื่อยที่ละ 1-2 โคนในปริมาณต่อโคนสัก 100 กรัม ผมแนะนำเป็นเครื่องไอศกรีมซอฟต์เสริฟ Soft serve 18L/H กำลังตึงๆแต่ให้ดีก็กำลังการผลิต 25L/H นะครับ
2.) การเลือกความทนทาน และคุณภาพจาก Compressor นะครับ
เครื่องไอศครีมซอฟต์ Soft serve ในปัจจุบันนั้นจะมีการใช้ compressor หลักๆจาก 3-4 ประเทศคือ จีน , ญี่ปุ่น อิตาลี หรือฝั่งยุโรปอื่นๆ เป็นต้นครับ ซึ่งแต่ละเจ้าก็นำเสนอความทนทาน และ คุณภาพ Compressor กันทั้งหมดเลยครับ ซึ่งราคาก็จะไล่ลำดับกันไปตามจากราคาถูกไปแพงครับ Compressor จีน , ญี่ปุ่น และอิตาลีครับ
ผมขอแนะนำจากประสบการณ์ของผมแล้วกันนะครับ ถ้ามีงบพอสมควรผมขอแนะนำให้เลือกใช้ Compressor อิตาลี นะครับเพราะมีความทนทาน และฉีดความเย็นที่ดีและเร็วกว่าทำให้ปั่นไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ได้ดีกว่าเร็วกว่าเช่นกันครับ
รองลงมาคือ Compressor ญี่ปุ่นนะครับ ส่วนจีนผมไม่แนะนำเพราะเรื่องความทนทานเป็นหลักครับผม ซึ่งเวลาซื้อเครื่องไอศกรีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ต้องได้ดูนะครับว่า Compressor ด้านในเป็น Compressor ของอะไรนะครับสำคัญมาก
ผมเคยเจอ Compressor จีนใส่มาแล้วลูกค้าเข้าใจว่าเป็น Compressor ญี่ปุ่น กลับไปถามคนขายบอกว่าคุณภาพเทียบเท่ากันก็มีนะครับ ตรงนี้ต้องเอาให้แน่นะครับสำคัญจริงๆครับ

3.) คุณภาพของเนื้อไอศกรีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ที่อยากได้
อันนี้จะเป็นเรื่องของระบบการผลิตไอศครีมซอฟต์ Soft serve ของเครื่องทำไอศครีม ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภทคือ ระบบ Gravity และระบบ Air pump ซึ่งแตกต่างคือ
ค่า Overrun หรือค่าอากาศ ในตัวไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ถ้าเป็นระบบ Gravity อากาศในไอศครีมซอฟต์เสริฟจะน้อยทำให้ ละลายง่าย และมีความเป็นเกล็ดน้ำแข็งในเนื้อไอศครีมสูงครับ
ส่วนระบบที่ผมแนะนำคือ ระบบ Air pump จะเป็นตัวเพิ่มค่าอากาศในไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ทำให้ลดการเป็นเกล็ดในเนื้อไอศครีม และ พองฟูประหยัดต้นทุน เนื้อเนียน แน่น นุ่ม เหนี่ยวครับ
ซึ่งผมแนะนำครับถ้าซื้อเครื่องไอศกรีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ระบบ Air pump เป็นสิ่งสำคัญมากๆต่อเนื้อไอศครีมซอฟต์เสริฟครับ (อ่านเพิ่มเติมได้นะครับ รายละเอียดระบบ Air pump)

3.) ฟังก์ชั่นของเครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ที่อยากจะได้
เรื่องสุดท้ายก็คือเรื่องฟังก์ชั่นต่างๆของเครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ที่ควรจะมีครับผม ผมขอแยกฟังก์ชั่นในแต่ละอย่างเป็นข้อๆ ซึ่งยิ่งเครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve มีฟังก์ชั่นมากก็จะทำให้ราคาเครื่องก็ยิ่งแพงขึ้นครับ
ดังนั้นผมจะบอกว่าตัวไหนสำคัญ และถ้าไม่มีจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไรเพื่อให้ตรงกับงบประมาณในการซื้อเครื่องไอศกรีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ที่มีดังนี้
· ระบบ Precooling คือระบบทำความเย็นให้กับถังเก็บน้ำไอศครีมซอฟต์เสริฟด้านบน (Hopper) เครื่องทำไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ทำให้น้ำไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve เย็นก่อนจะลงไปปั่นเป็นไอศครีม ทำให้ปั่นไอศครีมได้เร็วกดได้ต่อเนื่องมากขึ้น และเป็นการรักษาอายุของน้ำไอศครีมด้วย ระบบนี้ถ้ามีจะดีมากครับ (รายละเอียดตามนี้เลยนะครับ รายละเอียดระบบ Precooling เครื่องไอศครีมซอฟต์ Soft serve)
แต่ถ้ามีงบไม่ถึงก็มีวิธีแก้ไขครับ คือการกดไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve 3-4 เสิร์ฟ ขึ้นไปใส่ในถังเก็บน้ำไอศครีมด้านบน (Hopper) แล้วตีให้ไอศครีมซอฟต์เสริฟละลายกับน้ำไอศครีม เพื่อทำความเย็นให้กับน้ำไอศครีมซอฟต์เสริฟด้านบนแทนระบบครับ ซึ่งทำทุกๆ 3-4 ชม.ครั้งนะครับก็สามารถทดแทนระบบนี้ได้
· ระบบวัดไฟแบบ Real time คือ ระบบวัดไฟที่เข้าเครื่องทำไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ในขณะนั้นๆว่ากำลังไฟเพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่เพียงพอต้องรีบแก้ไขไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบต่อเครื่องทำไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve อย่างมากคือ ไอศครีมซอฟต์เสริฟจะเย็นช้า และ Compressor ร้อนมีสิทธิ์ไหม้ได้ ระบบนี้ต้องมีครับ ต้องมีเท่านั้นนะครับ สำคัญจริงๆ (รายละเอียดตามนี้เลยนะครับ รายละเอียดระบบวัดไฟ แบบ Real time)

· ระบบ Mix sensor หรือระบบวัดระดับน้ำไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ทำหน้าที่คอยเตือนเมื่อน้ำไอศครีม ถึงระดับที่ต้องเติม เพราะถ้าปล่อยให้น้ำไอศครีมหมดแล้วเราฝืนใช้ปัญหาจะเข้ามายาวๆเลยครับ
คือ กดไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ไม่ออก สายพานไหม้ มอเตอร์ไหม้ เกียร์กระชากจนเสีย และแกนปั่นแตกร้าว หลายบาทเลยครับ ระบบนี้ผมยืนยันว่าต้องมีครับ ถ้าไม่มีก็ต้องหมันเปิดเช็คบ่อยๆนะครับ ใกล้หมดต้องเติมเลยห้ามฝืนนะครับผม (รายละเอียดตามนี้นะครับ รายละเอียดระบบ Mix sensor เครื่องไอศกรีมซอฟต์ Soft serve)

· ระบบ Protection alarm คือระบบเตือนเมื่อเครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve กำลังเกิดขัดข้อง ระบบนี้จะทำหน้าที่ตัดการทำงานและแจ้งเตือนความผิดพลาดของเครื่องในขณะนั้น เพื่อให้เราแก้ไขก่อนที่เครื่องจะเสียหรือมีปัญหาครับ ระบบนี้ต้องมีเลยมีเท่านั้นนะครับผม
· ระบบ Stanby mode คือระบบตั้งเพื่อสั่งไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serveให้หยุดพักกี่นาทีแล้วค่อยเริ่มปั่นไอศครีมใหม่ ต่อประโยชน์คือ ประหยัดไฟ และรักษาไม่ให้โปรตีนในน้ำไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ตายครับ ระบบนี้ต้องมีนะครับยิ่งตั้งได้นานเท่าไรยิ่งดีครับ เพราะเราจะได้ตั้งให้เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาการขายได้ง่ายครับ (รายละเอียดตามนี่นะครับ รายละเอียดระบบ Stand by mode เครื่องไอศครีมซอฟต์ Soft serve)
· ระบบ Over night หรือ Keep fresh คือระบบที่ทำให้เราไม่ต้องล้างเครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ทุกวันครับ โดยเครื่องจะสั่งให้ทำความเย็นทั้งในถังเก็บน้ำไอศครีมซอฟต์เสริฟ และในช่องปั่นไอศกรีมซอฟต์เสริฟ ตลอดทั้งคืน เราจึงสะดวกไม่ต้องล้างเครื่องทุกวันครับ 2-3 วันล้างทีได้ครับ ถ้าไม่มีระบบนี้ต้องล้างเครื่องทุกวันนะครับผม (รายละเอียดตามนี่นะครับ ระบบ Over night ของเครื่องไอศครีมซอฟต์ Soft serve)
จริงๆมีฟังชั่นของเครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve อีกเยอะนะครับแต่ผมจะกล่าวเพียงหลักๆเอาไว้ครับ เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกซื้อเครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve นะครับ ถ้ามีครบได้ยิ่งดี แต่ถ้างบจำกัดมากๆ ผมขอให้มี ระบบวัดไฟแบบ Real time , protection alarm และ Mix sensor นะครับเพราะสำคัญกับการป้องกันปัญหาที่จะเกิดกับเครื่องทำไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ของเรานะครับผม
Punchifresh เราพัฒนารูปแบบเครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve จากการรับฟังคำแนะนำอย่างต่อเนื่องมาตลอด เราจึงให้ความสำคัญกับสิ่งเล็กๆน้อยๆที่มีผลต่อการขายไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve ของลูกค้าเป็นอย่างมาก (สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ Soft serve เราได้ที่ เครื่องไอศครีมซอฟต์เสริฟ Punchifresh
ติดต่อ Punchifresh ได้ที่
โทร ; 0848092922
Line ; @Punchifresh
Line ; poppypalop
FB ; Punchifresh